“น้ำมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของบ้านมีดี”
#น้ำมันโพธิ์ใต้แม่ ยอดของขลังควรรู้ ตามคติครูท่านยกย่องประวัติ:น้ำมันโพธิ์ใต้แม่ ปฏิหาร : หนี้สินร้อยกว่าล้านหมดสิ้นมลายหายไป ประวัติน้ำมันโพธิ์ใต้แม่ที่ผมจะเล่าในครั้งนี้ ท่านอาจารย์บุญธรรม น่วมมานา(พ่อป่อง) ได้จัดสร้างให้แก่เฮียสามลูกศิษย์คนสนิทเป็นการส่วนตัว และ เป็นการสร้างน้ำมันโพธิใต้แม่ครั้งแรกของพ่อป่อง ช่วงราวๆพศ.๒๕๔๒ โดยเจตนาหลักของพ่อป่องคือ พ่อท่านตั้งใจทำช่วยเฮียสามให้ผ่านพ้นวิกฤตทางการเงิน ที่เฮียสามเผชิญอยู่ณ.ช่วงเวลานั้น โดยเป็นผลกระทบสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจฝองสบู่แตก “ วิกฤตต้มยำกุ้ง ” ในยุคนั้นของประเทศไทย เรื่องมีอยู่ว่าเฮียสามประกอบธุรกิจผลิตโครงคร่าวเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง โดยนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อแปรรูปจัดจำหน่ายให้ร้านค้าตัวแทน และกลุ่มผู้รับเหมา จากวิกฤตต้มยำกุ้งดังกล่าวทำให้เฮียสามเป็นหนี้สะสมร้อยกว่าล้านในเวลาอันสั้น ด้วยปัจจัยหลายๆทางด้าน อาทิเช่นค่าเงินบาทที่ผันผวล อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวก้าวกระโดด และภาวะหนี้เสียจากตัวแทนจำหน่ายและผู้รับเหมา จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีแต่คนในครอบครัวเฮียสามเท่านั้นที่ทราบ เพราะเฮียสามไม่เคยบอกใครแม้แต่คนเดียว ลำพังดอกเบี้ยก็โดนวันละเกือบแสน ภาษาบ้านๆจะเรียกว่ากัดฟันอมเลือดสู้ก็ว่าได้
“มีพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์”
อยู่มาวันหนึ่งเฮียสามก็ไปเยี่ยมเยียนพ่อป่อง ตามปรกติ พ่อก็ถามเฮียสามขึ้นมาว่า ช่วงนี้ไม่ดีใช่ไหม? เฮียก็บอกว่าใช่ครับ(ในใจคิด อาจารย์รู้ได้ยังงัย) พ่อป่องก็บอกให้เฮียสามไปนิมนต์พระท่านสวดธรรมจักรที่สำนัก เดี๋ยวจะช่วยทำพิธีให้แล้วจะดีขึ้น โดยให้เฮียสามนำผ้าแดงผ้าขาวขึงบนล่างจัดเตรียมสถานที่สิ่งของที่ต้องใช้ตามตำรา หลังจากการทำพิธีครั้งนั้น เฮียสามก็ได้เล่าว่าสิ่งต่างๆก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ต่อมาไม่นานเฮียสามก็ไปเยี่ยมเยียนพ่อป่องตามปรกติเช่นเคย พอพ่อป่องท่านเจอหน้าเฮียสาม พ่อท่านก็พูดขึ้นมาอีกว่า เฮียสามเมื่อคืนพ่อผม(ปู่เที่ยง)มาหาผม แล้วบอกว่าครั้งนี้เฮียรอดนะ เดี๋ยววันพฤหัสผมจะพาไปเอาโพธิ์ใต้แม่ เมื่อเฮียสามได้ยินก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่รู้กันของลูกศิษย์บ้านมีดีว่าน้ำมันโพธิ์ใต้แม่เป็นตำนานวิชาอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์บทหนึ่งของสำนักที่สืทอดมากว่าร้อยปี มีพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์เหนือคำบรรยาย ด้วยความร้อนใจด้วยปัจจัยหลายๆด้าน เฮียแกก็ตอบกลับไปทันทีว่า ผมขอวันนี้เลยได้ไหมอาจารย์ พ่อป่องท่านก็หันหน้ามามองตาแล้วนิ่งไปซักพักนึงแล้วพยักหน้าพร้อมพูดว่า งั้นเฮียก็รีบไปหาเครื่องสังเวย ธูป เทียน แผ่นทอง ผ้า7สี มาตอนนี้เลย แล้วไปด้วยกัน พอเฮียสามได้ยินคำนั้นจากอาจารย์ ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งรีบขับรถออกไปจากสำนักรีบไปตลาดจัดหาของมาให้ครบตามที่พ่อป่องต้องการในทันที พอเฮียสามได้ของครบตามที่พ่อป่องต้องการ พ่อป่องก็พาเฮียสามเดินทางออกจากสำนักไปยังต้นโพธ์สูงใหญ่ต้นหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหลังรพ.ศิริราช พอไปถึงสถานที่เรื่องแปลกก็เกิดขึ้นทันที จากสภาวะอากาศปรกติไม่มีเค้าเมฆฟนแต่อย่างใด เมื่อพ่อป่องก้าวลงจากรถเหยียบลงที่พื้นดินณบริเวณนั้น กลับกลายมีเสียงฟ้าร้องคำรามในทันใด ลมพายุฟนกระหน่ำเข้ามาในทันที เรียกได้ว่าแรงลมฟนหนักมากถึงขนาดยืนจุดนั้นแต่กลับมองไม่เห็นสะพานพระปิ่นเกล้าฯ ทั้งที่ทั้งสองจุดนั้นอยู่ใกล้ๆกัน จากนั้นพ่อป่องท่านก็ชี้ไปที่กิ่งของต้นโพธิ์ต้นดังกล่าว กิ่งโพธิ์นั้นเป็นกิ่งใหญ่ที่ปลายกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก แล้วท่านก็บอกให้เฮียดูต้นโพธิ์เล็กๆที่เกิดขึ้นมาบนกิ่งโพธิ์นั้น แล้วบอกว่าเฮียสามว่า ต้นโพธิ์เล็กๆต้นนี้เค้าเรียกว่าต้นโพธิใต้แม่ ตามตำราต้องเป็นต้นโพธิ์ที่เกิดขึ้นบนกิ่งของต้นโพธิ์ต้นใหญ่อีกที่ และกิ้งนั้นต้องเป็นกิ่งใหญ่ที่ปลายกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออกด้วยนะ เราถึงจะนำมาทำน้ำมันโพธิ์ใต้แม่ได้
” ปฏิหาร น้ำมันโพธิ์ใต้แม่”
ต่อมาพ่อก็ให้เฮียสามจัดเตรียมเครื่องสังเวย และสิ่งของต่างๆที่เตรียมมา เพื่อสวดทำพิธีกรรมขอพลีโพธิ์ต้นนี้มาใช้น้ำมันโพธิ์ใต้แม่ จากนั้นก็ให้เฮียสามปีนขึ้นไปถอนต้นโพธิ์ใต้แม่ลงมา โดยกำชับให้ใช้มือถอนดึงขึ้นมาให้หมดทั้งราก ไม่ใช่ตัดหรือหักอย่างเด็ดขาด เฮียสามก็ปีนขึ้นไปตามคำสั่งอาจารย์ เมื่อเฮียสามเริ่มปีนต้นโพธิ์นั้น เหมือนฟ้าพิโรทหนักขึ้นเท่าทวีคูณ ลมพายุฟนกระหน้ำซัดถาถมเข้ามา ฟ้าแรบฟ้าร้องคำรามทั่วสารทิศ เฮียสามก็ไม่สนใจมุ่งมั่นทำตามคำสั่งอาจารย์ โดยตั้งใจถอนดึงอยู่นานพอควร เฮียสามดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก ดึงจนหมดแรงจนต้องลงมา แล้วบอกพ่อป่องว่าอาจารย์ครับผมดึงไม่ออก พ่อป่องท่านก็ยิ้มๆแล้วก็ให้คาถาสั้นๆบทนึงแล้วบอกให้เฮียสามขึ้นไปลองดึงใหม่อีกที เฮียสามก็คิดในใจรอบนี้ต้องดึงให้สุดแรง ยังงัยก็ต้องเอาออกมาให้ได้ จากนั้นเฮียสามก็รีบปีนขึ้นไปบนต้นโพธิ์อีกรอบ ก่อนดึงก็สวดคาถาพึมพร่ำตามอาจารย์สอน แล้วก็ใช้มือดึงสุดแรงกะว่ารอบนี้ยังงัยก็ต้องหลุด บทสรุปคือหลุดจริงครับ แต่หลุดมาแบบง่ายๆ หลุดมาทั้งยวงขนาดรากฝอยยังไม่ขาด จนเฮียแกเกือบตกต้นไม้ด้วยแรงดึงของตัวเอง เป็นที่หน้าประหลาดใจของเฮียแกยิ่งนัก และที่อัศจรรย์ใจยิ่งกว่านั้น พอเฮียสามถอดต้นโพธิ์หลุดปุ๊ปฟนหยุดตกปั๊ป ฟ้าเปิดในทันทีเสมือนปรกติแบบที่ไม่เคยมีพายุใดๆเกิดขึ้นแต่อย่างใด
จากนั้นพ่อป่องท่านก็นำต้นโพธิ์กลับสำนัก ต่อมาท่านก็เริ่มลงอักขระเลขยันต์ลงใบโพธิ์ทุกใบบริกรรมคาถาเสกต้นโพธิ์แล้วก็นำต้นโพธิ์ใต้แม่ที่ท่านเสกเสร็จแล้วใส่ลงไปในโหลน้ำมันจันทร์หอมพร้อมบริกรรมคาถาต่ออีกรอบจนแล้วเสร็จ ท่านจึงเรียกเฮียสามมาประสิทธิเมน้ำมันโพธิ์ใต้แม่ให้นำไปใช้ แล้วก็แบ่งให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์
” เรื่องเล่าจาก เฮียสามโดยตรง “
เชื่อไหมครับว่าด้วยพุทธคุณของน้ำมันโพธิ์ใต้แม่แห่งบ้านมีดีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ทำให้หนี้ร้อยกว่าล้านของเฮียสามหมดภายในระยะเวลาอันสั้นมากเป็นที่ปรากฎให้อัศจรรย์ใจยิ่งนัก ไม่ว่าเฮียสามจะทำอะไรก็สำเร็จในทุกๆด้าน จะเป็นการเจรจาค้าขายที่ง่ายขึ้น สั่งซื้อวัตถุดิบก็ได้ในราคาที่ถูกลง ขอปรับลดดอกเบี้ยธนาคารก็สำเร็จ ลูกหนี้จากที่หนีหายก็กลับมาติดต่อขอชำระหนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ธุรกิจเฮียสามใหญ่โตกว่าเดิมหลายเท่า ได้รับงานโครงการใหญ่ๆระดับประเทศเรื่อยมาไม่ขาดช่วง และที่สำคัญที่สุดเฮียสามท่านยังแบ่งรายได้จากผลกำไรส่วนหนึ่งที่ได้จากการทำธุรกิจในทุกๆปี มาทำบุญสร้างเสนาสนะมากมากเพื่อทำนุบำรุงศาสนาต่อไป ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดที่ผมเล่านี้ ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องที่สอบถามจากปากอาจารย์บุญธรรม น่วมมานา(พ่อป่อง) และเฮียสามโดยตรง โดยไม่มีเนื้อหาใดๆบิดเบือนจากความจริงที่ทั้งสองท่านเล่ามาทั้งสิ้น เจตนาเพื่อให้ตำนานหนึ่งบทนี้ของบ้านมีดีถูกเผยแพร่ออกไปในเนื้อหาใจความที่ตรงตามความจริง
คำเตือน : แอดมินเพจไม่ขอสนับสนุนให้ทุกท่านเช่าหาน้ำมันโพธิ์ใต้แม่มาใช้ เพราะน้ำมันโพธิ์ใต้แม่นี้ไม่สามารถแยกแยะความต่างจากน้ำมันจันทร์หอมทั่วไปได้แต่อย่างใด ที่สำคัญในโลกนี้นอกจากท่านพ่อป่องก็คงไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันให้คุณได้ ในหมู่ศิษย์บ้านมีดีเอง เราก็จะแบ่งปันให้กันใช้โดยไม่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด